เรื่องราวของ 3 หนุ่มมีอาการทางประสาท สร้างความปวดหัวให้ตำรวจต้องวิ่งวุ่นไล่ล่าข้ามคืนครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 4 พ.ค. พ.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุทธิพันธุ์ ผกก.สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พร้อมกำลังชุดสืบสวนและสายตรวจ เข้าปิดล้อมรถกระบะโตโยต้า รีโว่ 4 ประตู สีบรอนซ์ ทะเบียน 1 ฒอ 2998 กรุงเทพมหานคร ของพนักงานสอบสวนคดีอาญาและจราจร สภ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี หลังถูกนายนิคม (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน นาเรียง ต.ตาดทอง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี และนาย ศรนรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาวบ้านโคกล่าม ต.บ้านโปร่ง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี 2 ผู้ป่วยจิตเวชใช้เป็นยานพาหนะหลบหนีออกจาก สภ.ศรีธาตุ เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 3 พ.ค. เจ้าหน้าที่หลาย โรงพักได้กระจายข้อมูลและส่งกำลังติดตามผู้ต้องหาทั้ง 2 รายตลอดทั้งคืน

กระทั่งรุ่งเช้า พบรถตราโล่คันดังกล่าวขับมาตามถนนวารินชำราบเดชอุดม มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง อุบลราชธานี ตำรวจได้ขับรถไล่ล่ามาตลอดทาง และปิดล้อมจับกุมได้บริเวณสี่แยก ธ.ก.ส.สาขาวารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ต่อมา พ.ต.อ.สานิตย์ ไชยสถิตย์ รอง ผบก.ภ.จ.อุบลราชธานี เดินทางมาตรวจสอบ และพูดคุยกับทั้ง 2 คน ที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ทั้งคู่ยังให้การวกวนพูดจาไม่รู้เรื่อง รับสารภาพอ้างว่าเป็นผู้ถูกกักตัวที่ สภ.ศรีธาตุ ระหว่างตำรวจเผลอได้ชวนกันหนีออกจากโรงพัก และพบรถกระบะตราโล่จอดไว้หน้าโรงพัก มีกุญแจรถวางไว้ที่เบาะนั่ง ขโมยรถขับมุ่งหน้ามาหาเพื่อนในตัวเมืองอุบลฯ แต่ถูกสกัดจับได้ดังกล่าว หลังสอบปากคำเบื้องต้น ประสานตำรวจ สภ.ศรีธาตุ มารับตัวทั้ง 2 คนกลับไปดำเนินคดี

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.ศรีธาตุ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี เพื่อขอทราบข้อเท็จจริง พ.ต.ท.มนตรี แก้วปัญญา รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.ศรีธาตุ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 พ.ค. สายตรวจ 191 รับแจ้งว่านายอนุสรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี มีอาการทางประสาท อาละวาดจะทำร้ายพ่อ ตำรวจควบคุมตัวมาไว้ที่โรงพัก จากนั้นเวลา 12.00 น. รับแจ้งว่านายนิคม (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี คลุ้มคลั่งอาละวาดจะเผาบ้านเพราะขาดยาจิตเวช ตำรวจคุมตัวมาไว้ที่โรงพักเช่นกัน ต่อมาเวลา 15.00 น. นายศรนรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ขี่รถ จยย. มาจอดหน้าโรงพัก ขึ้นมาแจ้งความว่าบัตรประชาชนหาย แต่พูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง กระทั่งแม่มาที่โรงพักแจ้งว่านายศรนรินทร์ เป็นผู้ป่วยจิตเวช มีอาการทางประสาทลักรถ จยย.มา จากการสอบถามพูดคุย พ่อแม่ผู้ปกครองของทั้ง 3 คน ต้องการให้ตำรวจควบคุมตัวไว้ เพื่อนำส่งโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อรักษาอาการจิตประสาทในช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ค.

พ.ต.ท.มนตรีเล่าต่อไปว่า ตำรวจได้ทำบันทึกเตรียมนำทั้ง 3 คนส่งโรงพยาบาล และได้นำทั้งหมด ไปไว้ในห้องควบคุมด้านหลังที่มี 3 ห้อง ให้แยกอยู่ห้องละ 1 คน กระทั่งเวลา 22.10 น. สิบเวรแจ้งว่าทั้ง 3 คน หลบหนีออกจากห้องควบคุม นายศรนรินทร์ ที่ถูกคุมตัวอยู่ในห้องที่ 2 พังประตูออกมา และปล่อยนายอนุสรณ์กับนายนิคม จากนั้นไปลักรถกระบะตราโล่คันดังกล่าว เป็นรถร้อยเวรคดีอาญาและจราจรออกตรวจที่เกิดเหตุ ขับหลบหนีไป ได้แจ้งสกัดตามเส้นทางกลับบ้าน แต่ไม่พบ เมื่อตรวจกล้องวงจรปิดในโรงพัก พบว่าขณะที่สิบเวรออกไปล้างจานที่ห้องครัว ส่วนตำรวจพลขับอยู่ในห้องพนักงานสอบสวน นายศรนรินทร์ เป็นคนขึ้นกระทืบกรงเหล็กห้องควบคุมจนพังลงมาทั้งแถบ ก่อนออกมาเปิดห้องควบคุมให้เพื่อนหลบหนีออกมาด้วย นายศรนรินทร์เดินไปเปิดประตูรถกระบะตราโล่ ที่จอดอยู่หน้าโรงพัก หยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนเบาะขับหลบหนีไปกับนายนิคม ส่วนนายอนุสรณ์เดินออกจากโรงพักหายไป

พ.ต.ท.มนตรีกล่าวว่า ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และออกติดตามทั้ง 3 คนไปที่บ้าน แต่ไม่พบ ต่อมาญาตินายศรนรินทร์ โทรศัพท์มาแจ้งว่า นายศรนรินทร์ ขับรถยนต์ตำรวจมาหาที่ อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ และกำลังจะขับรถไปหาเพื่อนที่ อ.เมืองอุบลราชธานี หลังทราบข้อมูลรีบประสานตำรวจในพื้นที่ เข้าสกัดจับกุมตัวทั้ง 2 คนได้ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ขณะนี้ได้แจ้งข้อหา “ทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย และลักทรัพย์สินทางราชการ” ควบคุมตัวทั้งคู่กลับมาดำเนินคดี และจะส่งไปพบแพทย์จิตเวช ตรวจอาการอย่างละเอียด ส่วนนายอนุสรณ์ยังติดตามตัวไม่ได้ คาดว่าวนเวียนอยู่ในพื้นที่หรืออยู่ใกล้บ้าน ตำรวจและญาติกำลังติดตามตัว คาดจะได้ตัวในเร็วๆนี้