นับถึงวันนี้ทั้งโลกคงรู้จักความร้ายกาจของเชื้อโควิด-19 กันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะความสามารถในการแพร่เชื้อที่ไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น ไม่จำกัดเพศ วัย ชนชั้น หรืออาชีพ เพียงแค่มีความเสี่ยง ก็ต้องถูกกักตัวนาน 14 วัน เพื่อเฝ้าดูอาการโดยไม่มีข้อยกเว้น และถ้าใครเคยต้องกักตัว จะรู้ว่าต่อให้เป็นคนธรรมดาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วถ้าเป็นบุคคลที่ในชีวิตปกติก็มีข้อปฏิบัติที่แตกต่างจากคนทั่วไปอย่างพระสงฆ์แล้ว การกักตัวย่อมต้องมีความซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

กรมการแพทย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงประเด็นนี้ ประกอบกับภารกิจในการดูแลสุขภาพคนไทยทุกคนอย่างทั่วถึง ดังนั้นพอช่วงที่ผ่านมา เมื่อมีคณะสงฆ์กว่า 229 รูปเดินทางกลับจากประเทศอินเดีย กรมการแพทย์จึงรับหน้าที่ในการดูแลการกักตัวของคณะสงฆ์เหล่านี้ให้เป็นไปตามหลักสาธารณสุข และสอดคล้องกับหลักธรรมวินัยของสงฆ์ซึ่งทำให้การกักตัวของพระสงฆ์มีรายละเอียดที่แตกต่างจากคนทั่ว เช่น พระสงฆ์จะมาสามารถเข้าไปในโรงแรมที่ใช้กักตัวได้เลย แต่ต้องให้เจ้าคณะอำเภอนั้น ๆ มาประกาศว่า ให้ที่นี่เป็นเขตสังฆาวาส (ที่พักของสงฆ์ชั่วคราว) หรือเรื่องอาหาร แน่นอนว่ามีเพียงแค่มื้อเช้ากับกลางวัน แต่ในภาวะที่ต้องมีการเว้นระยะห่าง จึงไม่สามารถประเคนได้ ก็ต้องนิมนต์พระสังฆาฑิการจากวัดใกล้ๆ มาเป็นตัวแทนรับประเคน แล้วเจ้าหน้าที่จึงค่อยนำไปถวายต่อที่หน้าห้องพัก เป็นต้น เหล่านี้เป็นเพียงรายละเอียดส่วนหนึ่งของการดูแลพระสงฆ์ในช่วงกักตัว ซึ่งทางสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบันทึกเหตุการณ์คราวนี้อย่างละเอียด และนำมาถ่ายทอดผ่านคลิป เมื่อพระสงฆ์ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อต้องการให้สังคมไทยเห็นความร่วมมือ ความเสียสละ และความอดทนของภาคส่วนต่าง ๆ เพราะ สสส. เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราผ่านวิกฤตนี้ และนำไปสู่การสร้างสังคมไทยที่มีสุขภาพดีในอนาคต