เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ค. พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ร.ต.อ.อำนาจ อ่อนปาน รอง สว.(สอบสวน) และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก คุมตัว นายวิม สอนสุด อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 176 หมู่ 8 ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.พิษณุโลก หมู่ 5 ต.บ้านคลอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. และรีวอลเวอร์ขนาด .38 พร้อมอาวุธมีดปลายแหลม ยิงและแทงนายสานิตย์ บุตรมางกุล อายุ 60 ปี ผอ.สวท.พิษณุโลก เสียชีวิตข้างสถานี นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ อายุ 56 ปี ช่างเครื่องส่ง เสียชีวิตในห้องส่งกระจายเสียงเอเอ็ม นายจิรวุฒิ สุเมธเทพานันท์ อายุ 47 ปี นายช่างไฟฟ้าอาวุโส ตำแหน่งช่างเครื่องส่ง เสียชีวิตในห้องโถง และยิงนายปรุง จันทร์แดง อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 ต.พันชาลี อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ตำแหน่งช่างเครื่องส่ง ได้รับบาดเจ็บ

โดยเริ่มการทำแผนที่บริเวณห้องโถง นายวิม ได้ชี้จุดที่ นายจิรวุฒิ กำลังยืนบนบันไดเพื่อซ่อมกล้องวงจรปิดอยู่ ส่วนนายภูมิศรัณญ์ ยืนอยู่ข้างๆ จึงสอบถามนายจิรวุฒิ ว่า ตอนนี้หา "ออสติน" ซึ่งเป็นหม้อแปลงแกนอากาศ(ขดลวดทองแดง) ที่ไว้ใช้กับเสาส่งคลื่นสัญญาณวิทยุเจอแล้ว จะไปดูมั้ย  นายจิรวุฒิก็เหมือนไม่สนใจคำตอบ ทั้งๆ ที่โทรศัพท์สอบถามตนก่อนหน้านี้ นายวิม จึงใช้อาวุธปืนที่พกมาในกระเป๋าสะพายออกมายิงใส่นายจิรวุฒิ ส่วน นายภูมิศรัณญ์ ทำท่าผวาเข้ามาเหมือนจะจู่โจมเลยยิงใส่ ไม่รู้กระสุนโดนหรือไม่ แต่นายภูมิศรัณญ์วิ่งเข้าไปในห้องจัดรายการวิทยุ ไปหลบอยู่ในซอกข้างเครื่องไฟฟ้า นายวิมจึงยิงซ้ำจนเสียชีวิต แล้วเดินออกมาเห็นนายปรุง กำลังจะวิ่งหนีออกไปทางประตูด้านหน้าสถานี จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ 4 นัด นายปรุงได้วิ่งหนีออกไปตามถนน จึงเดินวนดูด้านข้างสถานี นายสานิตย์ ผอ.สวท.ที่แอบอยู่ด้านหลังสถานี ได้กระโจนเข้ามาเพื่อแย่งอาวุธปืนในมือของนายวิม จนล้มลงไปด้วยกัน ทำให้กระสุนลั่นหลายนัด นายวิมจึงใช้มือดันคางนายสานิตย์ที่ตนเองคร่อมอยู่ด้านบน แล้วดึงมีดปลายแหลมจากกระเป๋าสะพายแทงซ้ำจนเสียชีวิต โดยตำรวจใช้เวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 30 นาที

ต่อมา พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ เป็นการทำแผนประกอบคำรับสารภาพของผู้ต้องหา ตามระบบสืบสวน ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้ต้องหา และเรื่องขั้นตอนในการลงมือ ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี รวมถึงขั้นตอนในการก่อเหตุต่างๆ ยิงด้านหน้า ยิงที่ห้องส่ง และยิงคนเจ็บ และยิง ผอ.เป็นคนสุดท้าย โดยมีการต่อสู้กันกับ ผอ.สวท.ด้วย

"สาเหตุเป็นเรื่องการมีปัญหากันระหว่างกลุ่มนายช่างกับผู้ต้องหา ซึ่งมีอายุมาก ประกอบกับสุขภาพไม่สมบูรณ์เท่าไร จึงทำงานผิดพลาด มีปัญหาของหายประจำ โดนหัวหน้าต่อว่าบ่อยครั้ง จนก่อนเกิดเหตุก็เป็นเรื่องของหาย ทำให้ทะเลาะกับนายช่างทั้ง 2 คน จึงลงมือก่อเหตุ จากนั้นก็กลัวความผิดจึงเดินหาคนเห็นเหตุการณ์ ส่วนตัว ผอ.เป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า เพราะ ผอ.เดินมาเห็น จึงเป็นการลงมือเดี๋ยวนั้น เพราะกลัวความผิด"

พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวอีกว่า ในเรื่องที่ผู้ต้องหาต้องกินยา ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามียาโรคประจำตัว เช่น หืดหอบ โรคหัวใจ แต่ก็ขอประวัติการรักษาจากโรงพยาบาลมาประกอบสำนวน จากคำให้การคิดว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งหน้า สาเหตุเกิดจากการเก็บกด จากเรื่องงานที่ผิดพลาดบ่อยครั้งเพราะปัญหาสุขภาพ จนมาระเบิดระบายวันนี้ เป็นปัญหาเรื่องการทำงาน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป พร้อมขอรับความผิดชดใช้กรรม ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเท่าที่รับรายงานในวันนี้ อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนตัว นายวิม ผู้ต้องหา จะได้สอบปากคำเพิ่มเติมให้ละเอียด และนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดพิษณุโลกในวันพรุ่งนี้