จากการที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายทุน ลุงกอ อายุ 19 ปี ชาว อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และ น.ส.นานยอน (ไม่มีนามสกุล) อายุ 20 ปี ชาวไทใหญ่ พักอยู่หอพักยายแก้ว ม.4 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ กรณีมีกลุ่มมิจฉาชีพทำทีมาเสนอขายสินค้าถึงห้องพัก ขณะที่แฟนสาวอยู่ภายในห้องเพียงลำพังช่วงกลางวัน โดยบีบบังคับให้มีการซื้อสินค้า และก่อเหตุทุบกระปุกออมสินที่ทั้งคู่เก็บเงินไว้เป็นทุนเตรียมทำคลอดบุตร จำนวนประมาณ 4,000 บาท ก่อนที่จะเดินออกจากห้อง ทิ้งสินค้าที่บังคับให้ผู้เสียหายซื้อเป็น กระทะไฟฟ้า เตาแก๊สไฟฟ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่มซองเล็ก 5 ซอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ที่สภ.สารภี พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้แล้ว 4 คน ทราบชื่อคือ น.ส.ปุณยนุช งิ้วไธสง อายุ 25 ปี น.ส.อรอุมา ศรีกลัด อายุ 36 ปี น.ส.เจนจิรา ภิญโญภาพ อายุ 25 ปี และนายพรพรหม จอดนอก อายุ 30 ปี จับได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดสองแคว สภ.สองแคว จ.น่าน

จากการสอบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาได้ทำทีเข้ามาโฆษณาขายสินค้าภายในห้องพักของผู้เสียหาย แจ้งว่ามีคูปองชิงโชคซึ่งติดมากับน้ำยาซักผ้าด้านหลังซอง โดยเสนอขายน้ำยาซักผ้าในราคาซองละ 1 บาท หากจับได้รางวัลจะถูกบังคับให้ซื้อสินค้าในราคาตามที่ติดไว้หลังซอง โดยมีรางวัลใหญ่จำนวนมาก อาทิ รถไถคูโบต้า รถจักรยานยนต์ ทีวี 50 นิ้ว เป็นต้น แต่ในความจริงรางวัลที่จะได้จริงๆ หลังจากที่เอาซองมาให้มีเพียงแค่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าและเตาปิ้งย่างไฟฟ้าเท่านั้น โดยผู้เสียหายได้ซื้อคูปองน้ำยาซักผ้าเป็นจำนวน 5 ซอง เมื่อเปิดสลาก ได้ถูกบังคับให้ซื้อเตาไฟฟ้ากับเตาหมูกระทะในราคาเตาละ 1,999 บาท แต่ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีเงิน และ 1 ในผู้ต้องหาได้ใช้ค้อนทุบกุญแจที่ล็อกกระปุกออมสินของผู้เสียหาย เอาเงินไปประมาณ 4,000 บาท ก่อนหลบหนีไป

น.ส.อรอุมา หรือว่า หมวย หนึ่งในผู้ต้องหาได้เล่าเหตุการณ์อ้างว่า ขณะเข้าไปเสนอของให้กับหญิงท้องแก่ที่ตกเป็นข่าวถูกแก๊งพวกตนเข้ามาปล้นทรัพย์ ได้เข้าไปเสนอขายน้ำยาซักผ้าในถุง ถุงละ 1 บาท โดยจะมีคูปองข้างซองให้มีสิทธิ์ได้เปิดชิงโชคด้วย ถ้าเปิดคูปองออกมาไม่เจออะไร ก็ถือว่าซื้อนำยาซักผ้าในราคา 1 บาท แต่ถ้าเปิดมาแล้วเจอรางวัลจะต้องแลกซื้อในราคาชิ้นละ 1,999 บาท ซึ่งตนก็ได้ย้ำกับผู้เสียหายว่า ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องซื้อ จากนั้นมีการตกลงซื้อขายกับสาวท้องแก่ ที่เป็นผู้เสียหายจำนวน 5 ซอง ในราคา 5 บาท ผู้เสียหายเปิดดูก็พบว่าถูก ชิ้นแรก ต้องจ่าย 2 พันบาท และเปิดอีกเป็นชิ้นที่ 2 ก็ต้องจ่ายอีก 2 พันบาท รวมเป็น 4 พันบาท จากนั้นตนได้ยื่นเลขที่บัญชีให้กับผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายบอกว่าไม่มีที่โอน แต่มีเงินในกระปุกออมสิน และถามว่าพวกพี่แคะออมสินได้ไหม แล้วผู้เสียหายก็ยกกระปุกออมสินมาให้ จึงได้ใช้ค้อนทุบกุญแจออกแล้วนำเงินออกมาจ่ายค่าของที่ได้รางวัล

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.บัญชา อินถา ผกก.สภ.สารภี เผยว่า ผู้ต้องหาแก๊งนี้ได้ตระเวนก่อเหตุมาหลายพื้นที่หลายจังหวัด โดยจากการสอบถามพบว่าทำในลักษณะแบบนี้มากว่า 1 ปี ซึ่งของรางวัลที่มีจริงๆ นั้น มีแค่เตาแม่เหล็ก และเตาปิ้งย่างที่ซื้อมาในราคา 500-600 บาทเท่านั้น แต่นำมาชิงโชคในราคา 1,999 บาท ซึ่งคำให้การของผู้ต้องหานั้นถือว่าเป็นสิทธิของผู้ต้องหา โดยหลังจับกุมได้มีการแจ้งข้อหาในความผิด "ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป" และหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการแก๊งมิจฉาชีพรายนี้ต่อไป