นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทยอย่าง "ฉลามวาย" นวพรรษ วงค์เจริญ และ "เงือกจอย" เจนจิรา ศรีสอาด ได้กลับมาฝึกซ้อมอีกครั้งที่ สระว่ายน้ำแบงค็อก อะคาเดมี่ หลังได้รับอนุญาติจากภาครัฐให้สามารถเปิดสระว่ายน้ำได้ ท่ามกลางการมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ ลงชื่อเข้าออกสระ และ การฝึกซ้อมแบบเว้นระยะห่าง

นายธนาวิชญ์ โถสกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า "ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ทำให้พวกเราได้กลับมาฝึกซ้อมอีกครั้งหลังหยุดซ้อมไปกว่า 2 เดือน ซึ่งเราก็ได้ปฎิบัติตามมาตรการการป้องกันของรัฐบาลโดยให้นักกีฬาฝึกซ้อมลู่คนหนึ่งคน เรื่องสภาพร่างกายคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะกลับมาเหมือนเดิม ส่วนเรื่องโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 นั้นตอนนี้เราได้โควต้า 2 ที่ แต่มีนักกีฬา 4 คนที่ผ่านเกณฑ์ก็ขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกซ้อมกันให้เต็มที่ โดยทางสมาคมจะทำการคัดเลือกและน่าจะประกาศว่าใครจะได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันได้ราว ๆ เดือนเมษายนปีหน้า"

ด้าน "ฉลามวาย" นวพรรษ วงค์เจริญ นักว่ายน้ำทีมชาติไทย กล่าวว่า "หลังตัวผมเองห่างหายจากสระว่ายน้ำไปกว่า 2 เดือน ได้กลับมาอีกครั้งก็รู้สึกดีแต่คงต้องใช้เวลาปรับสภาพร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิมอย่างน้อยคิดว่าน่าจะมี 3-4 เดือน ส่วนเรื่องการลุ้นโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ผมยังไม่ซีเรียสอะไรมากนักเพราะเป็นช่วงที่ยังไม่มีการแข่งขันขอโฟกัสที่ตัวเองด้วยการฝึกซ้อมให้เต็มที่ก่อน"

ส่วน "ฉลามจอย" เจนจิรา ศรีสอาด อีกหนึ่งนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย ก็ได้เปิดเผยว่า "ในช่วงที่เราได้หยุดพักไปก็ได้มีการฝึกซ้อมภาคพื้นดินเป็นหลัก เมื่อกลับมาลงสระอีกครั้งคงต้องใช้เวลาปรับสภาพร่างกายอีกสักระยะ เรื่องโควต้าโอลิมเกมส์นั้นแน่นอนเราก็หวังอยู่แล้วแต่คงไม่คิดว่าจะต้องไปแข่งขันกับใครแต่น่าจะแข่งกับตัวเองมากกว่าเพราะว่ายน้ำเป็นกีฬาที่วัดกันที่สถิติยังไงก็เต็มที่อยู่แล้ว"

สำหรับนักกีฬาว่ายน้ำทั้ง 4 คน นวพรรษ วงศ์เจริญ, แอนดรูว์ เจมส์ ดิกบี้, ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง และ เจนจิรา ศรีสอาด ที่อยู่ในเกณฑ์การคัดเลือกของสมาคมว่ายน้ำฯจะถูกคัดเลือกให้เหลือเพียง 2 คน แบ่งเป็น ชาย 1 คน และ หญิง 1 คน โดยจะคัดเลือกจากผลงานของรายการแข่งขันของ สหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ หรือ FINA เป็นเกณฑ์ตัดสิน ซึ่งโควตาของนักกีฬาว่ายน้ำไทยนั้นได้โควตา 2 ที่ ในการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โตเกียว 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น