วันนี้ (28 เม.ย) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า กรุงเทพมหานครเตรียมออกมาตรการผ่อนปรน ผ่อนคลายล็อกดาวน์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่จะสิ้นสุดลง

วันนี้ (28 เม.ย) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครว่า กรุงเทพมหานครเตรียมออกมาตรการผ่อนปรน ผ่อนคลายล็อกดาวน์มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายนนี้

โดยกรุงเทพมหานครเสนอแนวทางผ่อนปรน 8 ประเภทสถานที่ให้สามารถเปิดได้ โดยต้องทำตามมาตรการที่กำหนด ประกอบด้วย

1) ร้านอาหาร นั่งทานที่ร้านได้ แต่ต้องจัดที่นั่งห่างกัน 1.5 เมตร และห้ามมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดตามเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
2) ตลาด และตลาดนัด ให้ขายสินค้าได้ทุกประเภท
3) สถานที่ออกกำลังกาย เป็นประเภทที่มีระยะห่างกัน รวมถึงศูนย์กีฬาและศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร จะเปิดบริการ ให้เข้าไปออกกำลังกายได้เฉพาะกีฬาที่ไม่ใกล้ชิดกัน เช่น เดิน วิ่ง สนามแบตมินตัน เทนนิส เทเบิลเทนนิส เป็นต้น ไม่อนุญาตกีฬาประเภททีม เช่น ฟุตบอล ซอฟต์บอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล กีฬาที่ต้องใกล้ชิดกัน
4) สวนสาธารณะ ให้เข้าใช้ออกกำลังกาย พักผ่อนได้ แต่ห้ามจับกลุ่มสังสรรค์
5) ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย อนุญาตเฉพาะ ตัด สระ ไดร์ เท่านั้น และต้องหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชั่วโมง ให้จองคิวเข้ารับบริการ ไม่ให้มีการนั่งรอในร้าน ช่างใส่หน้ากาก และ Face Shield ด้วย
6) ร้านตัดขนสัตว์ และคลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ นำสัตว์เข้าร้านได้ 1 คน/1 ตัว เท่านั้น และหยุดทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชั่วโมง
7) โรงพยาบาล คลินิก และสถานพยาบาล
8) สนามกอล์ฟ และสนามฝึกซ้อม

โดยสถานที่ทั้ง 8 ประเภท จะต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด ต้องมีการวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ก่อนเข้า และจัดเว้นระยะห่างบุคคล 1.5 - 2 เมตร หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการนี้ก็จะสั่งปิดทันที โดยกรุงเทพมหานครได้เสนอมาตรการดังกล่าวนี้ต่อรัฐบาลแล้ว และจะนำเข้าประชุมในคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ในวันพรุ่งนี้ (29 เม.ย. 63) เพื่อเตรียมออกมาตรการหลังจากวันที่ 30 เมษายน 2563 นี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการห้ามขายสุราเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 จะมีการขยายต่อไปหรือไม่ ต้องรอความชัดเจนจากทางรัฐบาลที่มีการพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้