ความคืบหน้าล่าสุดของคดี ญาติ 7 คน ข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ปี นานกว่า 2 ปี ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด (17 มิ.ย.63) ทางตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา 5 รายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัวทั้ง 5 ราย ส่งตัวฝากขังศา

ความคืบหน้าล่าสุดของคดี ญาติ 7 คน ข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ปี นานกว่า 2 ปี ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด (17 มิ.ย.63) ทางตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา 5 รายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัวทั้ง 5 ราย ส่งตัวฝากขังศาลแล้ว โดยผู้ต้องหาที่ 5 นายสุรัตน์ อายุ 34 ปี เป็นน้าเขยเหยื่อ อยู่บ้านเดียวกับเหยื่อ ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 2 ราย เป็นเยาวชน ทางพนักงานสอบสวนได้นัดมาแจ้งข้อกล่าวหาก่อนจะนำตัวให้ศาลเยาวชนและครอบครัวซักถามการจับกุมในวันที่ 18 มิ.ย.นี้

สำหรับบรรยากาศที่บ้านผู้ต้องหา 4 ราย ที่ถูกฝากขังเรือนจำสุพรรณบุรี ทางญาติผู้ต้องหาที่ 1 นายอนันต์ อายุ 51 ปี เป็นลุงเขยเหยื่อ และผู้ต้องหาที่ 2 นายทรงวุธต์ อายุ 21 ปี น้าเขยเหยื่อ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนที่ก่อเหตุคนแรก เปิดเผยว่าขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารและหาหลักทรัพย์เพื่อจะไปยืนขอประกันตัวผู้ต้องหา

น.ส.ไก่ อายุ 40 ปี และ นายอ้วน อายุ 41 ปี พ่อแม่เด็กชายอายุ 12 ปี ผู้ถูกกล่าวหาเป็นหนึ่งในคนที่ลงมือข่มขืน บอกว่าในฐานะพ่อแม่ผู้ถูกกล่าวหาขอเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกและผู้ต้องหาคนอื่นๆว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ และผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนถูกต้อง ก่อนจะออกมาให้ข้อมูล ตอนนี้ทั้งครอบครัวตนและผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นๆ ตกเป็นจำเลยสังคมถูกรุมประณามถูกรุมสาปแช่ง ทั้งที่ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าผู้ถูกกล่าวหาว่าผิดหรือไม่ผิด ถ้าหากว่ามีหลักฐานปรากฎชัดว่าผู้กกล่าหาไม่ได้กระทำผิดจะทำอย่างไร ใครจะรับผิดชอบ อยากวอนสังคมว่าขอให้ฟังความรอบด้านและผลการพิสูจน์ที่ชัดเจนก่อนค่อยตัดสิน ถ้าหากลูกของตนหรือผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นผิดจริงก็พร้อมยอมรับแต่ถ้าไม่ผิดสังคมและผู้เกี่ยวข้องจะรับผิดชอบยังไง

ส่วนทางด้านนางสาวบุษยาฏฐ์ มนต์คล้ำ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าได้รับการติดต่อจากพี่สาวเหยื่อขอให้ช่วยย้ายที่อยู่อาศัยชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย 

ล่าสุดเวลา 14.30 น. ได้เดินทางไปรับตัวพี่สาวของเหยื่อกับลูกอีก 2 คน เพื่อย้ายที่อยู่ไปอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากหากอยู่บ้านเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ส่วนแม่ของเหยื่อเจ้าหน้าที่ยังให้อยู่ที่บ้านเดิมเนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เหตุกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด

นางสาวบุษยาฏฐ์ มนต์คล้ำ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าได้ประชุมสหวิชาชีพร่วมกันแล้วประเมินสภาพจิตใจของพี่สาวถ้ายังอยู่ในชุมต่อไปชีวิตความเป็นอยู่คงไม่ปกติสุขเท่าไหร่นักเนื่องจากต้องดูแลลูกของตัวเองด้วยและทางผู้ต้องหาก็ได้รับการประกันตัวออกมาทาง พม.จึงได้เข้ามาดูแลคุ้มครองทั้งสตรีและเด็กคือพี่สาวและลูกสภาพจิตใจและสภาพความเป็นอยู่ทำให้ใช้ชีวิตอยู่ยากลำบากในชุมชนเราจึงต้องให้พี่สาวไปเข้าการรับรองคุ้มครองในสถานที่ที่รัฐจัดไว้ให้แล้วจะประเมินสถานการณ์ในพื้นที่อีกครั้ง จนกว่าจะวิเคราะห์แล้วว่าพยานสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ทางด้านพี่สาวเหยื่อกล่าวว่ารู้สบายใจขึ้นแต่ก็ยังกังวลเนื่องจากคดียังไม่จบ เราไม่รู้ว่าใครจะคิดอะไรยังไงกับเรา เราจึงไปเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลในเชิงลึกว่าขณะนี้ผลการตรวจร่างกายของเหยื่อจาก รพ.โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ยังไม่สอดคล้องกับคำให้การของเหยื่อและญาติผู้เสียหายตามที่เป็นข่าวและผลการตรวจไม่ตรงกับรายละเอียดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงข่าว ซึ่งขณะนี้ทางโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ได้ส่งตัวเหยื่อไปตรวจร่างกายที่สถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อให้แพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา ได้ตรวจร่างกายของเหยื่ออย่างละเอียดอีกครั้ง โดยคาดว่าน่าจะทราบผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 18 มิ.ย.นี้  

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปติดต่อขอสัมภาษณ์นายนิมิต วันไชยธนวงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งท่านผู้ว่าแจ้งผ่านหน้าห้องมาว่ายังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจอย่างเป็นทางการ และข้อมูลที่ชัดเจนก่อน