วันที่ 29 เม.ย. ที่ บก.ปคม. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม พร้อมด้วย นายอ้วน (นามสมมติ) อาชีพ รปภ. และ ด.ญ.ไก่ อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ร.ร.แห่งหนึ่งในจังหวัดอำนาจเจริญ ผู้เสียหายที่ถูกนายต้น อายุ 24 ปี ญาติที่เป็นลูกของอาสาว ข่มขืนกระทำชำเรา หลังเอาลูกสาวไปฝากไว้เมื่อปี 62

นายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้พาบิดาของเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่เป็นผู้เสียหายในคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จากการถูกญาติสนิทล่วงละเมิดทางเพศ และพยายามปกปิดไม่ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย เข้าร้องเรียนต่อตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เพื่อขอให้ดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย และติดตามเร่งรัดติดตามคดี ภายหลังเด็กหญิงถูกกดดันจนต้องหลบหนีออกจากพื้นที่

นายอ้วน พ่อ ด.ญ.ไก่ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 แต่ตนเองมาทราบเรื่องเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยลูกสาวได้ถูกลูกพี่ลูกน้องซึ่งเป็นลูกชายของพี่สาวแทัๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันในอำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ ข่มขืนกระทำชำเราหลังจากตนฝากลูกสาวให้อาศัยอยู่ด้วย เพราะกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมปีที่ 2 และตัวเองทำงานอยู่ในจังหวัดนนทบุรี แต่กลับถูกญาติแท้ๆ ทำแบบนี้ แล้วพยายามช่วยกันปกปิดไปโดยการไปซื้อยาคุมกำเนิดให้เด็กกิน และพยายามไม่ให้เป็นคดี

“จนกระทั่งลูกสาวสุดทน เล่าความจริงให้ฟัง จึงประสานให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอำนาจเจริญให้ช่วยเหลือออกมาและพาเข้าแจ้งความที่ สภ.หัวตะพาน แต่คดีกลับไม่มีความคืบหน้า แม้จะมีการแจ้งข้อหา และให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปแล้ว ซึ่งทุกวันนี้คนที่ทำก็ยังใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงตัดสินใจไปรับลูกสาวมาอยู่ด้วย และมาร้องตำรวจ ปคม.ให้ช่วยทำคดี”

ด้านนายรณณรงค์ กล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจท้องที่ควรจะให้ความสำคัญทำคดีให้จริงจังกว่านี้ เพราะเป็นคดีคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นกับเด็ก รวมทั้งการช่วยเหลือคุ้มครองเด็กผู้เสียหาย ไม่ควรปล่อยให้ถูกโดดเดี่ยวเช่นนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปคม.รับเรื่องและสอบปากคำ ด.ญ.ไก่ ต่อหน้าสหวิชาชีพ เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป.