ความคืบหน้ากรณี 2 คนร้ายมีจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ใช้อาวุธปืนจี้ชิงเงินจาก นางวัชรินทร์ อายุ 46 ปี  เจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน จำกัด ขณะหิ้วถุงเงินจำนวน 1,050,000 บาท ออกมาจากธนาคารกรุงเทพ สาขาเชียงแสน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ไปขึ้นรถยนต์รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์ของสหกรณ์ หมายเลขทะเบียน กต 582 เชียงราย เมื่อวานนี้

โดยหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัว นายสิทธิโชค ชาวบ้านแม่คำ ม.2 ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ทำงานที่สหกรณ์การเกษตรเชียงแสน โดยเจ้าหน้าที่ได้แกะรอยจากกรณีที่นายสิทธิโชค นำอาวุธปืนขนาด 9 มม. ที่ได้ใช้ในการก่อเหตุไปฝากไว้กับเพื่้อนคนหนึ่ง จึงติดตามจับกุมตัว แต่เบื้องต้นนายสิทธิโชคยังให้การปฎิเสธอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการจี้ชิงทรัพย์ กระทั่งเจ้าหน้าที่มีการสอบเค้นอย่างละเอียด ทำให้ในช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา มีรายงานว่านายสิทธิโชคยอมรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ทำการจี้ชิงเงินดังกล่าวจริง

ส่วนสาเหตุนั้นตามแนวทางสืบสวนทราบว่านายสิทธิโชค เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์การเกษตร มีการทุจริตหลายอย่าง อีกทั้งเป็นหนี้สินจากการกู้ยืมสหกรณ์การเกษตรจำนวนมากนับล้านบาท จึงทำให้ถูกให้ออกจากงานมาได้ประมาณ 1 เดือน  ประกอบกับเป็นคนที่ชอบเล่นการพนันซึ่งมักจะเดินทางข้ามไปเล่นในบ่อนประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งอาจคับแค้นที่ถูกออกงานและส่วนหนึ่งต้องการนำเงินไปใช้หนี้  และการที่เป็นเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์การเกษตรเชียงแสน ทำให้รู้ความเคลื่อนไหวทางการเงินของสำนักงานเป็นอย่างดีจึงวางแผนมาจี้ชิงเงินดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ถูกนายสิทธิโชคชิงไป พบว่าเหลือเงินสดเพียงประมาณ 200,000 บาท ส่วนที่เหลือถูกนำไปใช้หนี้หมดแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน จะมีการนำตัวนายสิทธิโชค ไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ และจะมีการติดตามหาเงินจำนวนที่หายไปและผู้ร่วมก่อเหตุ ซึ่งเป็นคนขับรถให้มาดำเนินคดีร่วมด้วยต่อไป