จากกรณีที่ ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุม นายธันพิชา หรือ มายด์ อายุ 28 ปี อยู่ ต.โนนอุดม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่า พื้นที่ กทม.

จากกรณีที่ ตำรวจกองปราบปรามติดตามจับกุม นายธันพิชา หรือ มายด์ อายุ 28 ปี อยู่ ต.โนนอุดม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ซึ่งถูกจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่า พื้นที่ กทม. เมื่อช่วงเย็นวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา

นางอุบล อายุ 59 ปี มารดาของผู้ต้องหา  กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวลูกได้แล้วได้รู้ว่าลูกปลอดภัยก็ดีใจมาก เพราะที่ผ่านมา กินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้ทุกคืน

“แม่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกตัวเองกับคนรัก เพราะที่ผ่านมาเห็นทั้งคู่รักกันมาก เมื่อเกิดเหตุขึ้นและนายเปี๊ยก คู่รักของลูก อยู่ในสภาพมีบาดแผลถูกแทงตายในห้องเช่า ก็คิดไม่ออกว่า เป็นฝีมือลูกของตัวเองหรือไม่ ถ้าลูกทำก็ขอให้รับผิด ชดใช้กรรมในสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น ไม่กี่ปีก็ได้ออกจากคุกมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน”

นางอุบล กล่าวต่ออีกว่า ถ้าลูกทำก็ให้รับสารภาพ เพื่อจะได้รับโทษที่ก่อขึ้น แต่ถ้าไม่ทำ และให้การปฏิเสธก็ต้องมีการประกันตัว ซึ่งแม่ไม่ทราบว่าต้องใช้เงินจำนวนมากน้อยเท่าใด และไม่รู้ว่าจะหาเงินหรือหลักทรัพย์ที่ไหนมาประกันตัวลูก และโดยส่วนตัวแม่ก็ไม่เชื่อว่ามายด์จะกล้าลงมือฆ่าเปี๊ยกแฟนตัวเอง เพราะมายด์รักเปี๊ยกมาก

ขณะที่ น.ส.ณัฐริกา น้องสาวนายมานพ ผู้ที่ถูกฆ่าเสียชีวิต กล่าวว่า ครอบครัวทราบข่าวการจับกุม นายธันพิชา ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งมองว่าถ้ามายด์ไม่ใช่คนฆ่าพี่ชาย จะหลบหนีไปทำไม และหลังจากเกิดเหตุครอบครัวรับไม่ได้โดยเฉพาะแม่ที่ร้องไห้อย่างหนัก

“วันนี้แม่ก็โล่งอกขึ้นมากที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้เอาไว้ได้ ซึ่งหากมีการชี้จุดหรือยอมรับสารภาพมีการทำแผน ก็คงแล้วแต่พ่อกับแม่ว่าจะอยากไปดูหรือไม่ และไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ฝันถึงพี่ชาย ซึ่งพี่ชายมาเล่นด้วยมานั่งคุยหยอกล้อกันตามปกติ มีการเดินทางไปทำงานและกลับมาที่บ้าน เหมือนใช้ชีวิตปกติ เหมือนพี่ชายยังไม่จากไปไหน หน้าตาก็สดใส จึงอยากขอบคุณทางตำรวจที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ฆ่าพี่ชายของตนเองมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้สำเร็จ”